เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน อีกหนึ่งแลนมาร์คที่ฮอตและฮิตที่คนไทยอยากไป นอกจากค่าเงินจะใกล้เคียงกับเงินบาทบ้านเราแล้ว ยังมีที่เที่ยวที่น่าไปถ่ายรูปเช็คอิน อาหารอร่อย ชานมเยอะมาก ที่สำคัญช้อปปิ้งสนุกมากโดยเฉพาะรองเท้า เพราะราคาไม่แพง ล่าสุดทีมไปกับโปร มีโอกาสไปเยือนไทเป เลยเอารูปสวยๆ และแพลนทริป 4 วัน 3 คืนแบบเที่ยวไม่เหนื่อยมาก ง่ายๆ เดินทางสะดวกมาฝากกัน สำหรับคนที่อยากเดินทางไปเองไม่ง้อทัวร์

ก่อนจะเริ่มเดินทางก็ต้องแพลนกันก่อนว่า จะไปกี่วัน จากไทยไปไต้หวัน ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าอยากเที่ยวแบบชิลล์ๆ ไปเช็คอินจุดแลนมาร์กสำคัญๆ ก็เลือกแบบ 4 วัน 3 คืน เที่ยวในไทเปก็กำลังดี อากาศไม่ร้อนมาก บางวันหนาวเบาๆ แต่เอาแน่เอานอนกับอากาศที่นี่ไม่ได้เลย ฝนตก ร้อน หนาวใน 1 วันก็เจอกันมาแล้ว ตอนนี้ไต้หวันฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย 10 วัน ใครมีเวลาก็จัดเต็มอยู่เที่ยวเมืองอื่นๆ ก็ตามใจชอบได้เลย พาสสปอร์ตพร้อมแล้วก็เริ่มแพลนกันเลย
ครั้งนี้เดินทางกับสายการบินไทยเวียตเจ็ท จากสุวรรณภูมิ ลง เถาหยวน ใช้เวลา 3.30 ชั่วโมงได้ สามารถเลือกที่นั่งล่วงหน้าและซื้อกระน้ำหนักกระเป๋าเดินทางได้ ของทีมไปกับโปร เลือกแบบ 20 ก.ก. แชร์น้ำหนักได้ 2 คนก็ 40 ก.ก. ( หิ้วรองเท้ากลับมาได้หลายคู่ ) จองล่วงหน้าสัก 3 เดือนก็จะได้ราคาถูกใจ จองที่นี่เลย https://th.vietjetair.com/ และอย่าลืมเลือกที่นั่งล่วงหน้ากันด้วยนะ และเดินทางเกือบ 4 ช.ม.ก็แอบหิวแน่นอน บนเครื่องก็มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการนะ แนะนำว่าควรสั่งจองล่วงหน้า นอกจากจะได้เมนูที่อยากทานแล้ว ยังไม่ต้องลุ้นว่าเมนูนั้นจะหมดหรือเปล่า แบบเราที่อดทานเมนูชาเขียวตัวเด็ดของสายการบิน

และอีกหนึ่งอย่างที่อยากให้ทุกคนต้องทำและต้องมี คือการทำประกันการเดินทางต่างประเทศ จ่ายเพิ่มหลักร้อยแต่ได้รับความคุ้มครองหลักหมื่น เราจองออนไลน์กับ ชัวร์ครับ.คอม เค้ามีให้เลือกหลายแพ็คเก็จ ทั้งรายเที่ยว และ รายปี ดูรายละเอียดได้ที่ https://surekrub.com/travel-insurance และครั้งนี้เราก็ได้ใช้ประกันจริงๆ ไม่ใช่เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุใดๆ แต่กระเป๋าเดินทางใบเก่าที่ซื้อมาใช้เมื่อหลายปีก่อน เก็บไว้นานจนล้อเสื่อม พอลงเครื่องปุ๊ป ล้อแตกไป 2 ล้อ ก็ต้องติดต่อสายการบินเพื่อออกใบเคลมให้เราไปเบิกประกัน สรุปเอากลับมาซ่อมและเบิกค่าซ่อมได้ คุ้มมาก (ค่าซ่อมล้อแพงกว่าค่าประกันเดินทาง 3 เท่า)
และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่คุ้มค่ามากที่เราเลือกไปใช้ที่โน้น คือ กระเป๋าเดินทางสุดคุ้มใบนี้ กับ American Tourister รุ่น CURIO TRUNK ขนาด 27 นิ้ว น้องเป็นตัวแบกทุกอย่าง หลังจากอีกใบล้อพัง ไม่สามารถใส่ของหนักได้ ตัดสินใจถูกมากที่เลือกแบบ TRUNK เพราะมันจุมากๆ มีตัวแบ่งกั้นของ พับได้ ทนทานมาก ที่เริ่ดคือน้ำหนักเบาและมีระบบล้อคู่ Double Wheel ลากง่ายมาก สั่งจากเว็บนี้ https://www.americantourister.co.th/th/american-tourister/curio/spinner-73/27-tsa/at-141602-1041.html หรือไปดูตามห้างก็มีเหมือนกัน ตอนนี้ลดราคาอยู่ด้วย แนะนำเลย

แลนดิ้งถึงไทเปเรียบร้อยแล้วก็เที่ยวกันต่อเลย ก่อนอื่นผ่านตม. แล้วก็แวะซื้อซิมการ์ดกัน ที่เลือกใช้ซิมของที่นี่เพราะเราตั้งใจจะปั่นจักรยาน และบัตร easy card สำหรับเดินทางขนส่งสาธารณะกันให้พร้อม จากสนามบินเถาหยวนก็เดินทางเข้าเมืองไทเปด้วยรถไฟ MRTสายสีม่วง Express นั่งยาวๆ มาเลย ราคา 150 NT ลงสถานี Taipei main Station แล้วต่อ MRT อีก 1 สถานีเพื่อไปเช็คอินโรงแรมที่ Ximen จะนั่งแท๊กซี่ก็ได้ ประมาณ 100 NT โรงแรมที่พักที่ไทเปมีให้เลือกเยอะมาก ราคาเริ่มต้นพันกว่าบาทก็มี จองผ่านแอพต่างๆ ได้เลย จะจองในโซน ximen เพื่อช้อปและชิมแบบไม่ต้องต่อรถไฟ MRT หรือจะเลือกพักแถวสถานี Taipei main Station สำหรับเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่นๆ ต่อก็สะดวกทั้ง 2 โลเคชั่น

เก็บกระเป๋าเช็คอินที่โรงแรมเรียบร้อยแล้วก็ไปเช่าจักรยานกัน ที่ไทเป เป็นเมืองที่สามารถปั่นจักรยานบนทางเท้าได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วงเซฟกำลังขาได้เป็นอย่างดี วิธีการเช่าก็ไม่ยาก โหลดแอพที่ชื่อ youbike ใส่เบอร์โทรซิมไต้หวัน และหมายเลข easy card รอรับเลข OTP กรอกเสร็จก็เรียบร้อยก็แตะบัตร east card เพื่อ ใช้งานได้เลย ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 5 NT
ในแอพจะมีอัพเดทจุดจอดจักรยาน จำนวนคันคงเหลืออีกด้วย สะดวกมากๆ ใช้เสร็จนำรถไปคืนที่จุดจอด และแตะบัตรอีกรอบเพื่อเช็คว่าหักเงินจากบัตรไปเท่าไหร่ก็เป็นอันเรียบร้อย จักรยานทุกคันจะมีเจ้าหน้าที่มาขนไปเติมลมและนำมาเติมอยู่เรื่อยๆ น้อยครั้งที่จะเห็นคันที่ยางแบนใช้งานไม่ได้ นับว่าเป็นเมืองที่เอาใจใส่ผู้คนได้ดีมากๆ

จุดหมายแรกก็ต้องไปที่เช็คอินที่สถานที่สำคัญสักหน่อย ที่ National Chiang Kai-Shek Memorial Hall อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก สามารถปั่นจักรยานจากแถวซีเหมินติงไปได้เลย เปิดพิกัดปั่นมาทางแมพสะดวกและไม่เมื่อยด้วย
ข้อดีของการปั่นจักรยาน (ในวันที่ฝนไม่ตก) ก็คือ ระหว่างทางอยากแวะถ่ายรูปตรงไหนก็สามารถจอดแวะได้เลย จะคืนจักรยาน หรือเช่าต่อก็มีหลายพิกัดทั่วทั้งเมือง ค่าเช่าจักรยานสูงสุดที่เราใช้บริการมาคือ 35 NT ประมาณ 3 ช.ม. กว่าๆ
พิกัดต่อมาก็หมู่บ้านซื่อซื่อหนันซุน (Si Si Nan Cun Village ) หนึ่งในอดีตหมู่บ้านทหารก๊กมินตั๋ง นอกจากจะได้รูปสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นพิกัดฮิตที่ถ่ายรูปกับตึก ไทเป 101 แบบเต็มๆ ได้ด้วย

ไฮไลท์ของไทเปอีกแห่งคือตึกไทเป 101 เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกเมื่อ ปี 2004-2010 เสียดายวันที่ไปที่ตึกไทเป 101 หมอกลงจนถ่ายตึกแบบเต็มๆ ไม่ได้ ไว้จะมาถ่ายใหม่รอบหน้านะ

กลับมาเที่ยวใกล้ที่พักกันดีกว่า ที่Ximending Night Market ย่านช้อปปิ้งของวัยรุ่น เดินทางง่าย สามารถนั่ง MRT มาลงสถานี Ximen ได้เลย แวะถ่ายรูปกับทางม้าลายสีรุ้ง ก็ออกทางออกที่ 6 ก็จะเจอเลย
ใครชอบคิตตี้ก็ต้องไม่พลาดแวะไปถ่ายรูปกับ 7-11 คิตตี้สุดคิ้วๆ เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีที่นั่งทานในร้านและของน่ารักๆ ให้เลือกช้อปกันเพียบ

มาถึงไต้หวัน ต้นกำเนิดชานมก็ต้องไม่พลาดไปลองชานมไข่มุกเจ้าแรกของโลกกันหน่อย กับร้าน Xing Fu Tang สาขาแรกจริงๆ อยู่แถวอนุสรณ์สถานเจียงไคเชก แต่เราเลือกมาทานสาขาซีเหมินติง ใกล้ที่พักแทนเพื่อความสะดวก
นอกจากชานมไข่มุกแล้ว ต้องไม่พลาดลองเต้าหู้เหม็น และไก่ทอดยักษ์ hot star ที่ตลาดซีเหมินติงด้วยนะ หรือไปจัดหนักกับบุฟเฟ่ต์หม่าล่าชาบูที่ร้าน Mala Hot pot สาขา Ximen ก็อร่อยพอได้อยู่ ทานมื้อเย็นเรียบร้อยก็เดินช้อปปิ้งกันได้แบบสบายๆ ที่ซีเหมินติงมีร้านรองเท้าและ Shop แบรนด์ต่างๆ เยอะมาก

วันต่อมา เปลี่ยนบรรยากาศจากไทเป ไปเที่ยวที่เมืองเถาหยวน 1 วัน เดินทางโดยรถไฟ MRT ไปลงสถานีเถาหยวน และต่อรถบัส501 Daxi Express รถบัสสำหรับท่องเที่ยว ขึ้นจาก THSR Taoyuan โดยรถจะออกเป็นรอบๆ
พิกัดที่ปักหมุดเลยคือที่ Daxi Bridge สะพานต้าซี อยู่บริเวณ Daxi Zhongzheng Park สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 12 ของไต้หวัน ริมแม่น้ำต้าซี และยังมีห้องสมุดสาธารณะ เมืองเถาหยวน ที่ต้องไม่พลาด เสียดายเราเจอฝนเลยไม่ได้ไป ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ๆ
กลับเข้าเมืองไทเป ไปหามื้อเย็นทานกัน คืนนี้เลือกไปทานที่ ตลาดกลางคืนซื่อหลิน อีกหนึ่งตลาดไนท์มาร์เก็ตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไทเป เดินทางไม่ยากเลย ใช้รถไฟ MRT สายสีแดง ลงสถานี Jiantan Station

วันต่อมาก็ไปมูกันบ้าง ที่วัดหลงซาน หนึ่งในวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ไทเป เดินทางง่ายโดยรถไฟ MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานี Longshan Temple Station ทางออก Exit 1 เวลา 6 โมงเช้า, 8 โมงเช้า และ 5 โมงเย็น จะมีคนมาสวดมนต์กันเต็มวัด รู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ไปอีกขั้น และก่อนกลับแวะซื้อเครื่องของขลังกันตามใจชอบด้วยนะ

ออกจากวัดแนะนำให้ไปเดินเล่นและถ่ายรูปกันต่อที่ถนนโบราณเปาผีเหลียว เป็นหัวมุมถนนอาคารอิฐแดงเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ แต่ที่นี่ปิดทุกวันจันทร์นะ วางแผนการเดินทางดีๆ เพราะเราไปวันจันทร์ เลยไม่ได้เข้าไปเดินข้างใน เศร้าต่อที่ 3

วันนี้มื้อกลางวันไปจัดเต็มที่ตลาดปลาไทเปกันต่อเลย ที่นี่เป็นแหล่งรวมอาหารทะเลสดๆ ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน มีอาหารทะลสดๆ ให้เลือกเยอะมากๆ และราคาก็น่ารักมากๆ เช่นกัน
ตลาดปลาไทเป เปิดทุกวัน เวลา 6.00 – 24.00 น. เดินทาง โดย MRT สถานี Zhongshan Junior High School ต่อรถแท็กซี่ได้เลย
มีที่ให้ยืนรับประทานหลายจุด หรือแบบเป็นโต๊ะที่นั่งก็อยู่บริเวณรอบๆ

วันสุดท้าย แวะถ่ายรูปเก็บตกที่ แกลอรี่บ้านอิฐแดง Red House Theater ใกล้กับทางม้าลายสีรุ้งอีกสักแชะ แล้วก็เดินทางไปสนามบินเถาหยวนกันได้เลย

ขากลับกลับกับสายการบินไทยเวียตเจ็ทเช่นเดิม โชคดีที่ขนมปังเนยโสดกับชาเขียวยังไม่หมด ฟินปิดทริปได้อย่างสมบูรณ์ กลับถึงไทยปุ๊ป อดใจไม่ได้ที่จะส่องตั๋วเครื่องบินราคาดีๆ ต่อ เพราะยังติดใจกับทุกอย่างที่ไทเป และเราจะกลับไปเที่ยวอีกครั้งแน่นอน