ห้องอาหาร ชมสินธุ์ กับเมนูต้นตำรับอาหารไทย ที่ชูคุณค่าวัตถุดิบแห่งน่านน้ำไทย

เมนูอาหารไทยต้นตำรับที่ปัจจุบันนี้มีหลายเมนูที่หาทานได้ยาก และกำลังเลือนหายไปจากความทรงจำ ที่ห้องอาหาร ชมสินธุ์ นั้นได้นำสูตรต้นตำรับมาปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น และใช้อาหารทะเล และของสดจากแม่น้ำ เป็นวัตถุดิบหลัก อาทิ ล็อบสเตอร์จากจังหวัดภูเก็ต ปูจากจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ กุ้งแม่น้ำจากอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม รวมถึงข้าวหอมมะลิจากจังหวัดอำนาจเจริญ ชมสินธุ์ และยังเลือกใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากผู้ผลิตโดยตรงทั่วประเทศไทย

ที่ห้องอาหารชมสินธุ์ เป็นการประสานของรสชาติแห่งอาหารไทย ทั้งดั้งเดิมและสมัยนิยม พร้อมนำเสนอสูตรอาหารไทยต้นตำรับให้ผู้ที่รักอาหารไทยได้รับประทานอย่างหลากหลาย แสดงออกถึงมรดกทางวัฒนธรรม ความรุ่มรวยของอาหารทะเล และปลาแม่น้ำในฤดูกาลต่าง ๆ รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการสอดประสานของความร่วมสมัยที่จะส่งต่อคุณค่านี้จากรุ่นสู่รุ่น

บรรยากาศของห้องอาหารชมสินธุ์ จะออกโทนสีคราม สีเขียวเทอร์ควอยซ์ และสีน้ำตาล สามารถรองรับแขกได้มากถึง 48 ท่าน และมีมุมไพรเวทแยกสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ห้องอาหารยังได้รับการตกแต่งแบบร่วมสมัย เน้นใช้วัสดุจากไม้และดินเผา บ่งบอกถึงความสนุกสนาน ทันสมัยแต่หากยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคก่อน

โดยมีเชฟ ประวีณ ดีลี เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงผู้มารับหน้าที่เป็นผู้นำในครัว ไม่ใช่แค่ความหลงใหลในอาหารไทย แต่เขายังมีทักษะและความรู้ที่สั่งสมมาตลอดเส้นทางอาชีพเชฟ โดยเฉพาะในเรื่องสมุนไพร เครื่องเทศ และความเผ็ดร้อนในอาหารไทยที่มีมิติและตัวแปรอันแตกต่างกันออกไป เชฟประวีณเข้าใจวัตถุดิบทุกชนิดเป็นอย่างดี และรังสรรค์ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ โดยเฉพาะเครื่องแกงแบบโฮมเมดซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของอาหารไทย

กับเมนูอาหารไทยที่นำสูตรต้นตำรับมาปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น สำหรับวัตถุดิบหลักที่เป็นตัวชูโรงคืออาหารทะเล และของสดจากแม่น้ำ อาทิ ล็อบสเตอร์จากภูเก็ต ปูจาก ประจวบคิรีขันธ์ และกุ้งแม่น้ำจากอยุธยา เป็นต้น ชมสินธุ์ ยังเลือกใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากผู้ผลิตโดยตรงทั่วประเทศไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นสร้างการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับกระบวนการในห้องครัวซึ่งเชฟประวีณจะใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างรู้คุณค่า เช่น ใช้ก้างปลามาทำน้ำสต็อก หรือทำผงปรุงรสจากเปลือกกุ้ง ตรงกับหลักการ Zero Waste หรือแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์

สำหรับเมนูไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ เริ่มตั้งแต่ ยำมะเขือยาวปลาสลิด อาหารเรียกน้ำย่อยที่จะสร้างความอร่อยจากสัมผัสอันแตกต่าง ระหว่างความกรุบกรอบของปลาสลิดทอด และเนื้อนุ่มละมุนของมะเขือยาว พร้อมน้ำยำรสชาติจัดจ้าน อาหารเรียกน้ำย่อยอีกจานที่น่าสนใจคือ แสร้งว่ากุ้ง เมนูโบราณที่จะได้สัมผัสความแน่นของเนื้อกุ้งที่จับตามธรรมชาติ และสมุนไพรนานาชนิดที่ใช้เป็นส่วนประกอบของเมนูนี้ ส่วนเมนูหลักที่ต้องลองเลยก็คือ พระรามลงสรงกับล็อบสเตอร์ภูเก็ต ซึ่งเชฟประวีณจะเพิ่มความจัดจ้านในน้ำซอสด้วยพริกเผา และเลือกใช้ผักบุ้งจีนออร์แกนิกซึ่งให้รสหวานธรรมชาติ ส่วน นารีกรรแสง ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโบราณที่ควรได้ลิ้มลอง ใช้กุ้งทะเลเป็นส่วนประกอบหลัก เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยสามเกลอ พริกแห้ง ใบกะเพรา กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ซึ่งห้องอาหาร ชมสินธุ์ เลือกใช้ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ เมนูทั้งหมดสามารถสั่งได้แบบอะลาคาร์ทได้

ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วย ส้มฉุน เมนูของหวานตั้งแต่ครั้งโบราณที่จะสร้างความเย็นชื่นใจในทุกคำ ประกอบด้วยผลไม้รสเปรี้ยวตามฤดูกาล สมุนไพร และน้ำเชื่อมรสหวานกำลังดี และขนมถ้วยหลากหลายรสชาติที่หาทานยาก อาทิ มันม่วง ฟักทอง เผือก

แนวคิดการเลือกใช้วัตถุดิบทุกอย่างภายในประเทศไทยยังรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มอีกด้วย ห้องอาหาร ชมสินธุ์ มีเมนูค็อกเทลแนะนำหลายเมนูที่ใช้สุราที่กลั่นในไทยทั้งหมด อาทิ Siam Sindh ทำจาก Mekong น้ำเชื่อมอบเชย และน้ำส้ม หรือ Rum Wong ทำจาก Chalong Bay และแตงกวาหั่นบาง อีกทั้งยังมีเบียร์และไวน์ที่ผลิตในประเทศไทยมาให้เลือกอีกหลายรายการ

ห้องอาหาร ชมสินธุ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 โรงแรมอมารี กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 น. – 23:00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองโต๊ะ โทร: 02653 9000

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า